ข่าวสารที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้า:
1) ปธน.ทรัมป์ ยังไม่ตัดสินใจอนุมัติวงเงินเยียวยาเศรษฐกิจ ปธน.ทรัมป์ สร้างความประหลาดใจให้นักการเมืองและนักลงทุนอีกครั้ง โดยประกาศว่าจะยังไม่มีการพิจารณานโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ จนกว่าการเลือกตั้งจะแล้วเสร็จไปก่อน ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายวงเงิน 1.6 ล้านล้านของรีพับริกัน หรือนโยบายวงเงิน 2.4 ล้านล้านของเดโมแครต ก็ตาม
2) RBA สัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงิน แม้ในขณะนี้ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะยังไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย แต่ก็แสดงแนวโน้มว่าน่าจะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม เนื่องจาก RBA คาดว่าการฟื้นตัวของภาคแรงงานอาจใช้เวลานานกว่าที่มีการประเมินไว้ เช่นเดียวกับการฟื้นตัวของ GDP ที่ได้รับความเสียหายจากมาตรการ Lockdown ในรัฐวิคตอเรีย
3) BOE ประเมินว่าการระบาดรอบสองจะไม่ส่งผลกระทบรุนแรง ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ประเมินว่าการแพร่ระบาด COVID-19 ระลอกสองจะไม่สร้างความเสียหายมากเท่ากับการระบาดรอบแรก เพราะมีความเป็นไปได้น้อยที่จะต้องใช้มาตรการ Lockdown เต็มรูปแบบดังเดิม อย่างไรก็ตาม BOE ก็จะต้องดำเนินการเพื่อช่วยเหลือเยียวยาภาวะเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
ข่าวสารที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้า:
1) ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ (US CPI) จะมีผลในการสะท้อนภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลังจากที่ Fed ปรับเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อให้ขยายตัวได้เกิน 2% ซึ่งจะส่งผลต่อความผันผวนในค่าเงินดอลล่าร์ฯ ด้วย
2) สถิติการว่างงานของออสเตรเลีย เป็นตัวเลขที่ได้รับความสนใจหลังจาก RBA แสดงความกังวลต่อการฟื้นตัวของภาคแรงงานในประเทศ ซึ่งหากผลการรายงานออกมาไม่ดีก็จะยิ่งเป็นปัจจัยกดดันให้ RBA ต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม
3) สถิติค้าปลีกของสหรัฐฯ (US Retail Sales) เป็นสถิติสำคัญในการคำนวณ GDP ที่จะถูกจับตามองในสัปดาห์ต่อไป โดยตลาดคาดหมายว่ายอดค้าปลีกจะขยายตัวเพิ่มจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากการ Lockdown ในหลายรัฐได้สิ้นสุดลงแล้ว
4) การเจรจาดีล Brexit นรม.อังกฤษ และฝ่าย EU ตกลงที่จะขยายกรอบเวลาเจรจาออกไปอีก 1 เดือน เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่มีความชัดเจนภายในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ มีการวิเคราะห์ว่ามีความเป็นไปได้ที่อังกฤษจะถอนตัวจากดีล หากการเจรจายังคงไม่มีความคืบหน้าอีกเช่นเดิม
เปิดบัญชีเทรดกับ Tickmill https://secure.tickmill.com/users/register
Comentarios