คุณเคยพบกับปัญหาเหล่านี้ไหม ?
ตั้ง Pending Order เพื่อเปิดคำสั่งซื้อขาย แล้วราคาที่เปิด ไม่ตรงกับที่ต้องการ โดยมีการเลื่อนไปในทางที่ทำให้คุณเสียเปรียบ
ตั้ง Stop loss แล้วราคาที่คุณสามารถปิดคำสั่งซื้อขายได้ เลื่อนไกลไปกว่าที่คุณต้องการ จนทำให้คุณขาดทุนมากกว่าที่วางแผนไว้
เหตุการณ์เหล่านี้เกิดจากอะไร ในหัวข้อนี้เราจะอธิบายถึงกลไกการทำงานของคำสั่งซื้อแบบต่างๆ และสถาณการณ์ที่มีผลกระทบจนทำให้คำสั่งซื้อที่ประมวลผลนั้นไม่เป็นไปตามที่เราต้องการ รวมไปถึงแนวคิดในการบริหารความเสี่ยงที่ควบคุมได้ยากเหล่านั้น
เริ่มต้นจากความเข้าใจในประเภทของคำสั่ง และกลไกการทำงานของคำสั่งเหล่านั้น
ประเภทของคำสั่งจากการแบ่งประเภทโดย investopedia.com และ investor.gov
เราอาจแบ่งประเภทคำสั่งเป็นสองประเภท หรือสามรูปแบบขึ้นกับมุมมองของเงื่อนไขการจัดกลุ่ม
• Market order คือคำสั่งซื้อหรือขายทันทีในราคาแรกที่รองรับการจับคู่ได้ของเทรดเดอร์ในตลาด
• Limit order คือคำสั่งที่ต้องระบุราคาเป้าหมายลงไป โดยไม่มีการรับประกันว่าคำสั่งจะได้รับการประมวลในจุดที่ระบุโดยสมบูรณ์ Buy Limit Order คือคำสั่งซื้อในราคาตลาดเมื่อราคาลดลงต่ำกว่าระดับที่กำหนด Sell Limit Order คือคำสั่งขายในราคาตลาดเมื่อราคาถึงหรือสูงกว่าราคาที่กำหนด
• Stop orders ซึ่งเป็น limit order, ประเภทหนึ่งจะประมวลผลเมื่อราคาตราสารเคลื่อนไหวสูงหรือต่ำกว่าระดับที่กำหนด
ความแตกต่างหลักคือ Market order คือคำสั่งซื้อหรือขายทันทีในราคาแรกที่มี ซึ่งหากคำสั่งซื้อขายมีขนาดใหญ่เกินไป ระบบสามารถแบ่งเป็นการซื้อขายย่อยได้หลายคำสั่งตามราคา
ตัวอย่าง: ทองคำขายในราคา $ 1940.00 หากคุณต้องการซื้อ 100 ล็อตในตลาดอาจมีผู้ขายไม่เพียงพอในราคานี้โดยผู้ขายบางรายจะขายให้คุณในราคา $ 1940.00 บางรายขายให้ในราคา $ 1940.01 และบางรายขายที่ราคา $ 1940.42
คำสั่ง Limit และคำสั่ง Stop ทั้งสองเรียกอีกอย่างว่าคำสั่งซื้อขายที่รอดำเนินการ - Pending: คำสั่งเหล่านี้จะรอจนกว่าราคาจะถึงระดับหนึ่ง แล้วนั่นหมายความว่าเมื่อราคาไปถึงระดับที่ต้องการ คำสั่งซื้อของคุณจะ นำไปดำเนินการด้วยราคาดังกล่าวหรือไม่?
คำตอบคือไม่!
หมายเหตุสำคัญ: เมื่อราคาถึงระดับที่ต้องการคำสั่งซื้อที่รอดำเนินการ (Pending order) จะเปิดใช้งานและกลายเป็นคำสั่งซื้อ ประเภท Market orders ,โดยคำสั่งนี้จะดำเนินการ fill ณ ราคาแรกที่รองรับการจับคู่ ประเด็นสำคัญคือ ราคาที่พร้อมสำหรับการจับคู่นั้นขึ้นกับสภาพคล่อง หากตลาดอยู่ในภาวะสภาพคล่องต่ำ (ช่วงกลางคืน, วันหยุด หรืออื่นๆ) , ช่วงตลาดมีความผันผวนสูง เช่นช่วงการประกาศข่าวที่มีผลกับเศรษฐกิจ การเงิน หรือปัจจัยอื่นๆที่มีผลเหนือความคาดหมายกับราคาจนทำให้ราคามีความเคลื่อนไหวสูง ราคาที่รองรับการจับคู่นี้ก็อาจเคลื่อนห่างจากจุดที่คุณตั้งในคำสั่งซื้อแบบ Pending order ได้ และสถาณการณ์นี้เรียกว่า Slippage
ตัวอย่าง: ราคาทองคำปัจจุบันคือ $ 1940.00 คุณกำหนด Pending order แบบ Buy stop เมื่อราคาถึง $ 1940.05 แต่ในช่วงเวลาที่ราคาเข้าสู่จุดดังกล่าว มีการประกาศข่าว ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวของราคาทองคำพุ่งไปที่ 1940.07 ดอลลาร์ในทันที คำสั่งซื้อของคุณเปิดใช้งาน และกลายเป็น Market order แต่เนื่องจากมีผู้ซื้อรายอื่นต่อคิวก่อนหน้าคุณในราคาดังกล่าว และเกิดการจับคู่จนราคาไปที่ $ 1940.10 ทำให้คำสั่งซื้อของคุณดำเนินการในจุดนี้ และนี่คือตัวอย่างสถาณการณ์ที่คุณพบกับลักษณะของ Slippage
Slippage ของคำสั่ง Stop loss
คำสั่งแบบ Stop loss orders คือคำสั่งที่อยู่ในรูปแบบของ คำสั่งรอดำเนินการ (pending order) ดังนั้นการกำหนดจุด SL - Stop loss จึงไม่ได้รับประกันว่าคุณจะสามารถที่จะปิดคำสั่งซื้อขายของคุณในจุดดังกล่าวเช่นกัน เป็นไปได้ที่คุณอาจพบกับสถาณการณ์ของ Slippage หากในเวลาที่ราคาเคลื่อนไหวไปยังจุด Stop loss ของคุณนั้นมีความเคลื่อนไหวอย่างแรงจากความผันผวนหรือการขาดสภาพคล่องในตลาด
เลือกใช้คำสั่งด้วยความเข้าใจเพื่อสร้างความได้เปรียบ
คุณอาจพบว่าคำสั่ง Buy Stop Pending ในตัวอย่างข้างต้น ทำให้คุณได้รับราคาที่แพงกว่าที่คุณต้องการสำหรับการซื้อ แต่ถ้าคุณพิจารณาอย่างถี่ถ้วน และลองมองไปที่คำสั่ง Buy Limit คุณจะพบว่า การ Pending Buy Limit นี้กลับให้ผลในทางบวกกับการเปิดคำสั่ง Buy ของคุณ
ตัวอย่าง: ราคาทองคำปัจจุบันคือ $ 1940.00 คุณกำหนด Pending order แบบ Buy Limit รอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลง เมื่อราคาถึง $ 1939.95 การตั้งคำสั่งแบบ Limit นี้หมายถึง ระบบจะทำการ Fill คำสั่งของคุณก็ต่อเมื่อราคาที่ทำการจับคู่ได้นั้น ต่ำกว่า 1939.95 เท่านั้น
แล้วนั่นหมายถึงอะไรหล่ะ ?
คุณต้องการที่จะซื้อ ดังนั้นราคาซื้อยิ่งต่ำลงเท่าไหร่ คุณยิ่งได้เปรียบ และด้วยคำสั่ง Buy limit ที่จะยอม Fill คำสั่งซื้อของคุณเมื่อเกิด Slippage ไปเฉพาะเมื่อราคาต่ำกว่าจุด Buy Limit เท่านั้น การตั้งคำสั่งนี้จึงช่วยให้คุณไม่เจอผลร้ายจาก Slippage ในบริเวณที่คุณทำการวาง Buy limit ได้ และอาจทำให้คุณได้รับผลดีจากการ Slippage ด้วยนะ !
TIP เข้าใจกลไกการทำงานของคำสั่งแบบต่างๆ แล้วเลือกใช้ให้เหมาะสม จะทำให้คุณได้เปรียบในเกมมากขึ้น !
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
Comments